อันดับ 10 แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ชำแหละพิสดารจากนรก
แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นชื่อของชายคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์อังกฤษ ที่ชาวอังกฤษและชาวโลกรู้จักกันดี ทำไมน่ะหรือ ? ชายคนนี้เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมานับครั้งไม่ถ้วน มันเริ่มฆ่าหญิงโสเภณีในย่านสลัมของย่านลอนดอน ตั้งแต่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1888
ซึ่งผ่านมากว่าร้อยปีแล้ว
ทำไมถึงได้ดัง ทั้งที่ฆาตกรโหดเหี้ยมที่โดดเด่นและฆ่าเหยื่อมากกว่าเขา มีมากกว่าร้อยกว่าคน
คำตอบที่น่าจะกล่าวได้คือ ชายผู้นี้ยังไม่เคยโดนจับได้เลยตั้งแต่เขาก่อคดีสะเทือนขวัญผู้คนในลอนดอนมา ทั้งยังการฆ่าที่โหดเหี้ยมและน่าสยดสยอง ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเหยื่อโดยการผ่าท้อง และลากเอาไส้มาขวัญไว้ที่เสาไฟฟ้า การแขวนศพเหยื่อไว้บนกำแพง ฯลฯ และที่สำคัญไม่มีข่าวรายงานเลยว่ามีคนที่เคยเห็นหน้าแจ๊คด้วยซ้ำไป กระทั่งผู้ที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้ๆ แม้แต่ตอนที่แจ๊คลงมือยังแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปกติเลย โดยเหยื่อนั้นเสียชีวิตจากการถูกของมีคมแทงหรือไม่ก็ชำแหละ คมมากจนถึงขนาดตัดกระดูกออกมาได้
จนกระทั้งแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ หยุดการกระทำหฤโหด ทิ้งปริศนาไว้ตลอดกาลว่าเขาคือใครกันแน่
อันดับ 9 คดีฆาตกรรมในคิงส์เบอรี
คดีนี้เกิดขึ้นในคลีแลนด์ รัฐโฮไอโอ อเมริกา ค.ศ.1930-40 เรื่องของเรื่องคือมีการพบศพมนุษย์ศพแล้วศพเล่า กว่า 13 ศพ ในเขตลำน้ำคิงส์เบอรี รัน ทุกรายล้วนถูกฆาตกรรมโดยตัดหัว ตัดแขน แต่ละศพถูกทำความสะอาดด้วยล่ะครับ ทุกรายไม่สามารถระบุชื่อได้ ยกเว้นรายที่3 และ 4 เท่านั้น และเป็นคดีดังแห่งประวัติศาสตร์ที่ดำมืดทุกวันนี้ว่าใครคือฆาตกร? และฆ่าคนมากมายเพื่ออะไร?
อันดับ 8 เดอะ แบล็ค ดาห์เลีย ศพสยองข้างทาง
เกิดขึ้นวันที่ 15 มกราคม 1947 เป็นคดีการตายของ อลิซเบธ ชอร์ค หญิงโรคจิต ที่ตายสยอดสยองเช่นกัน ศพเธอถูกพบที่สวนสาธารณะตอนเช้าตรู่ เป็นเป้าสายตาคนด้วยล่ะ ร่างกายของเธอถูกหั่นเป็นสองท่อน หลังจากชันสูตรก็พบว่าในกระเพาะมีอุจจาระ ที่ทวารหนักมีเศษเนื้อและเศษหญ้าที่ฆาตกรหั่นตอนเธอมีชีวิตและยัดตรงช่องทวารเลยเชียวล่ะ
ถึงแม้ในเวลาต่อมาฆาตกรจะส่งห่อของขวัญที่มีของใช้ผู้ตายไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีข้อความกำกับบอกด้วยน่ะว่าตนเป็นคนฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่สามารถสืบได้อยู่ดีว่าใครคือฆาตกร ทำไมถึงลงมือกับเหยื่อได้โหดเหี้ยมอำมหิตถึงเพียงนี้ และปัจจุบันแฟ้มคดีนี้ก็ยังอยู่ในแผนกฆาตกรรมของตำรวจนครลอสแอนเจลีส อเมริกา จนถึงปัจจุบัน
อันดับ 7 The Boston Strangler นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน
ช่วงปี 1960 ที่อเมริกา ได้มีฆาตกรต่อเนื่องก่อคดีฆ่ารัดคอผู้หญิงในบอสตัน ฆ่าไปมากครับ ไม่เว้นว่าสาวหรือแก่ ผิวขาวหรือดำ ต่อมา ชายชื่อ อัลเบิร์ต เดอ ซัลโวผู้ซึ่งถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาเล็กๆ กลับสารภาพว่า ตนคือฆาตกร !
เขาสารภาพว่าทำเองครับ ฆ่าหญิงเหล่านั้น เขาให้การว่าทำการฆ่าข่มขืน กระทำชำเราหญิงอย่างไรบ้าง มันก็น่าจะลงตัวที่เขาทำ หากแต่ ... จากคำให้การแล้ว มีหลายอย่างที่ไม่ได้ตรงกับความจริง เช่น เขาให้การว่าข่มขืนหญิงรายหนึ่ง มีการทำจนเสร็จกามกิจ ... แต่จากร่องรอย ศพของหญิงคนนั้นไม่มีคราบอสุจิใดๆ ทั้งสิ้น
มันยังไงกันแน่ ... มีบางคนกล่าวว่า ที่อัลเบิร์ต เดอ ซัลโวให้การนั้นเขากำลังจะบอกว่าใครคือฆาตกรต่างหาก เขาอาจจะโดนบังคับให้สารภาพจากฆาตกรตัวจริง และแม้หากเป็นเช่นนั้น เราก็ไม่อาจทราบ เพราะ 4 ปี หลังจากสารภาพ ... เขาถูกแทงตายในคุก
และความจริงก็ตายไปกับเขาด้วย
อันดับ 6 คดีฆาตกรรมมาริลีน เชพเพิร์ด
ใครเคยดูหนังเรื่อง The Fugitive น่าจะร้องอ๋อครับ เพราะรูปแบบของเรื่องราวนั้นเหมือนในหนังไม่มีผิด นายแพทย์หนุ่มที่ชื่อว่า แซม เชพเพิร์ด ถูกหาว่าสังหารภรรยาของเขา มารีลิน และถูกตัดสินจำคุกก่อนที่จะตายไปโดยที่ตราบาปนั้นยังคงอยู่ แซมให้การว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในบ้าน และเขาถูกมันทำร้ายจนหมดสติไป พอตื่นมาอีกทีก็พบภรรยาของตนเองเสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมาลูกของเขาได้พยายามพิสูจน์ความจริง และรวบรวมหลักฐาน พวกรอยนิ้วมือเก่าเก็บและหลักฐานบางอย่างที่สมัยก่อนยังไม่สามารถตรวจสอบได้ มาตรวจสอบในปี 2000 ก็พบว่า ... ในวันนั้น นอกจากแซม และ มาริลีนแล้ว ... ยังมีบุคคลอื่นอยู่ที่นั่นด้วย .... แล้วเขาเป็นใคร ?
อันดับ 5 The Tylenol Poisonings ยาพิษปริศนา
ยาเม็ดแก้ปวดไทลินอล ทุกคนน่าจะรู้จักนะครับ ใช้กันบ่อยนี่หน่า ... ลองจินตนาการดู ... หากมีคนบ้าคนนึง เอายาพิษไซยาไนต์ (ยาพิษร้ายแรงที่เมื่อออกฤทธิ์แล้ว มีแต่ตายเท่านั้น!) ใส่ลงไปในยาเม็ดเหล่านั้น แล้วก็บรรจุมันลงกล่องตามปกติ จากนั้นก็วางแผงขาย แล้วก็มีคนซื้อไปกิน ... เขาจะเป็นอย่างไร
ทีนี้เลิกจินตนาการครับว่ามันเป็นเรื่องจริงดีกว่า!
ในอดีตนั้นยาไทลินอลมันยังเป็นแคปซูลนะครับ ไม่ได้เป็นเม็ดอย่างทุกวันนี้ แล้วก็เกิดมีใครบางคนเอาไซยาไนต์ใส่ลงไปในแต่ละแคปซูลแล้วก็แพ็คขายตามปกติ ใครกินก็มีแต่ตายกับตาย ซึ่งก็มีคนมากมายตายไปเพราะไทลินอลสอดไส้ไซยาไนต์นี้เอง
มันเริ่มเกิดขึ้นปี 1982 ที่อเมริกา จู่ ๆ มีหลายรายกินยาชนิดเข้าแล้วก็ตาย เหตุเกิดหลายรัฐมากครับและมันเป็นการฆ่าแบบสุ่มครับ ไม่มีเป้าหมาย คิดดู สิ่งที่ฆาตกรทำก็คือนั่งลงดูทีวีและรอว่าเมื่อไหร่ข่าวที่เป็นผลงานตนจึงจะออกมา และแน่นอนว่าผู้ตายย่อมไม่มีความแค้นกับมัน(เพราะมันสุ่มฆ่าอยู่แล้ว)
อันดับ 4 Jonbenet Ramsey Murder สังหารโหดนางงามเด็ก
วันที่ 25 ธันวาคม ปี 1996 วันคริสต์มาสสำหรับหลายๆ คน แต่มันคือวันสุดท้ายในชีวิตของเด็กน้อยอายุไม่ถึง 8 ขวบ นาม Jonbenet Ramsey เช้าวันนั้นแม่ของเธอแจ้งความว่าเธอได้รับโน้ต เนื้อความคือ Jonbenet ลูกสาวของเธอถูกลักพาตัวไป ... การดำเนินหาตัวเธอก็เริ่มขึ้น แต่ก็ไม่มีใครพบ จนตำรวจลองให้พ่อแม่ของเธอค้นในบ้านอีกครั้ง ... อันนำมาสู่ปริศนาอันน่าสะพรึง
Jonbenetถูกพบเป็นศพ.ที่ใต้ถุนบ้านของเธอเอง!
เธอถูกรัดคอและทุบกระโหลก เธอเสียชีวิต ... แต่มันอะไรกัน เธอโดนลักพาตัว หายไปจากบ้าน มีการค้นแล้วนี่หน่า ... แต่หลักฐานต่อมาน่าฉงนยิ่งกว่า นั่นก็คือ โน้ตหรือจดหมายลักพาตัวนั้น ถูกเขียนโดยปากกาในบ้านนั้นเอง ... แต่ลายมือไม่ใช่ของคนในบ้าน จากการสืบสวน ไม่มีหลักฐานว่าคนในบ้านเเกี่ยวข้องกับการตายของเธอเลย ซึ่งนั่นก็ปี 1996 ซึ่งวิทยาการไม่ได้อ่อนด้อย การสืบสวนก็ทันสมัยแล้วแต่กลับไม่มีอะไรอธิบายเรื่องนี้ได้เลย
ผมสารภาพเลยครับว่าคดีนี้เล่นเอาผมขนลุกและน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กัน ขนลุกก็เพราะปริศนาสารพัดอย่างที่บอกนั่นแหละ แต่ที่น้ำตาซึมก็เพราะ ผมได้เห็นรูปเธอด้วย เธอเป็นเด็กผมทองที่น่ารักมาก สดใสมากคนนึง ขอบอกว่าผมไม่ได้คิดในแง่อกุศลใดๆ ครับ เธอสดใสยิ่งกว่าเด็กคนอื่นที่ผมเคยเห็นมาจริงๆและพอรู้ชะตากรรมแบบนี้มันเศร้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
และ ... คุณก็ทราบดี ... คดีนี้ยังหาตัวฆาตกรไม่ได้ เช่นกัน
ถึงแม้จะมีการจับนาย มาร์คา และเขาจะสารภาพแล้วก็ตาม แต่เหมือรชะตาเล่นตลก เพราะผลพิสูจน์ ดีเอ็นเอจากศพ ผลปรากฏว่า มันไม่ใช้ของเขา ศาลจึงไม่สั่งฟ้องนายมาร์ค
คดีนี้จึงเป็นคดีปริศนาอีกครั้งหนึ่ง
อันดับ 3 The Phantom Killer ฆาตกรล่อนหน
คดีนี้เป็นฆาตกรรมสะเทือนขวัญอันหนึ่งครับ 1946 ในอเมริกาเช่นกัน คือมีฆาตกรต่อเนื่องก่อคดีฆ่าคนนั้นแหละ เหยื่อโดนทั้งมีดทั้งปืนเมื่อฆ่าเสร็จแล้วก็หายไปเลยยังกับเป็นควัน แน่นอนก็ยังไม่มีใครจับได้ เพราะฉายาของเขาก็คือ Phantom
อันดับ 2 The Green River Killer ฆาตกรลับสมอง
คดีนี้เกิดแถบซีแอ้ตเติล 1982 ครับ เมื่อมีฆาตกรต่อเนื่องฉายา ฆาตกรแห่งกรีนริเวอร์ ได้ฆ่าคนตายไปกว่า 50 ศพ แต่ละศพก็ทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้เหมือนจะท้าทาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถสาวถึงตัวฆาตกรได้ และที่น่าสะพรึงอย่างมากก็คือ ว่ากันว่า ทุกวันนี้ ยังมีการฆาตกรรมที่มีรูปแบบคล้ายกับ ฆาตกรแห่งกรีนริเวอร์ ปรากฎอยู่บ่อยครั้ง มันเป็นฝีมือของพวกเลียนแบบ .... หรือเป็นฆาตกรแห่งกรีนริเวอร์ตัวจริงกันแน่ ?
อันดับ 1 The Zodiac Killer ฆาตกรจักรราศี
นี่คือสุดยอดฆาตกรโรคจิต ฆาตกรที่เหล่าผู้ค้นคว้าศึกษาเรื่องคดีฆาตกรรมทั้งหลายต่างรู้จักกันดี"ฆาตกรจักรราศี" !
วันหนึ่งในปี 1968 แถบซานฟรานซิสโก มีวัยรุ่นหนุ่มสาวกำลังพรอดรักกันในรถ จากนั้นก็มีใครบางคนเดินเข้ามา ชักปืนและยังทั้งคู่ดับอนาถเลือดสาดไปทั่วบริเวณนั้น ... เปิดมาเหมือนกับตอนหนึ่งของหนัง ศุกร์ 13 ใช่มั้ยครับ หากแต่มันเป็นเรื่องจริง และมันก็ทำอีกในปี 1969 เช่นเคยวัยรุ่นหนุ่มสาวถูกฆ่าแต่ผู้ชายรอดมาได้และให้การว่าฆาตกรมีผิวขาว!
ฉายาจักรราศีของมันมาได้อย่างไรหลายคนอาจสงสัย...และนี่คือคำตอบ
หลังจากมันก่อ 2 คดีโหดแล้ว มันได้ส่งจดหมายไปหาตำรวจ และภายในแทนที่จะเป็นภาษาอังกฤษ มันกลับเป็น สัญลักษณ์จักรราศี จากความที่ถอดได้คือ "ฉันชอบฆ่าคน มันสนุกดีมากๆ"แต่สัญลักษณ์17ตัวสุดท้ายของจดหมายกลับไม่มีใครถอดออก
และการฆ่าครั้งต่อมาก็สยองขวัญถึงขีดสุด เมื่อมันลงมือด้วยการสวมฮู้ด (เหมือนเอาผ้าดำคลุมหัวน่ะครับ) ใส่ชุดที่มีสัญลักษณ์จักรราศี มันลงมือแทงวัยรุ่นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกลางวันแสกๆ แบบไม่ยั้ง!ต่อมาคนขับแท๊กซี่ก็เป็นอีกรายที่ตกเป็นเหยื่อของฆาตกรรายนี้
ฆาตกรรายนี้นับว่าสั่นประสาทชาวอเมริกันอย่างสูง และถ้าสังเกตก็จะพบว่ามันชอบฆ่าวัยรุ่นหนุ่มสาว ซึ่งคงจะมองออกแล้วนะครับว่าพวกหนังไล่ฆ่าแนวศุกร์ 13 นั้น ได้แรงบันดาลไจมาจากอะไรและคงพอจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมวัยรุ่นอเมริกันจึงค่อนข้างกลัวหนังประเภทนี้ ในขณะที่บ้านเราเห็นว่าเป็นหนังตลกไร้สาระ...ก็บ้านเขามีคนตายแบบนี้จริงๆนี่หน่า
ว่ากันว่าสัญลักษณ์ 17 ตัวสุดท้ายของจดหมายนั้น ... คือ ชื่อของเขา ... แต่ก็ไม่มีใครถอดได้
และเขายังคงลอยนวล ตราบจนทุกวันนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น