แม่น้ำไนล์ แม่น้ำแห่งเทพเจ้า ที่สุดของแหล่งพึ่งพิงของสิ่งมีชีวิต
แม่น้ำไนล์ ภาษากรีก มีความหมายว่า หุบเขาที่มีแม่น้ำ และยังมีชื่อเรียกอีกว่า ไอกึปตอส (Aigyptos) แปลว่า "แผ่นดินอียิปต์” ด้วยเหตุผลความผูกพันกับ พื้นแผ่นดินไอยคุปต์แห่งแอฟริกามาช้านาน โดยอยู่ในการดำรงชีพ ความเชื่อ และพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณของชาวอียิปต์ ที่ไหลผ่านหลายประเทศ ได้แก่ บุรุนดี รวันดา คองโก แทนซาเนีย เคนยา ยูกันดา เอธิโอเปีย ซูดาน และอียิปต์ มีระยะทางเป็นความยาวทั้งสิ้น 6,695 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสายน้ำที่มีความยาวที่สุดในโลก
สายน้ำแห่งดินแดนไอยคุปต์นี้เป็นสัญลักษณ์ของการอยู่รอด มีชีวิต ความเป็นนิรันดร์ และความเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมลึกลับนี้ การค้นหาต้นกำเนิดของสายน้ำจึงเป็นความจริงที่มืดดำมาช้านาน ในช่วงเริ่มที่มีการค้นคว้าและสำรวจหาต้นกำเนิดนั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรีก ผ่านเวลากว่า 2,000 ปี เมื่อวิทยาการก้าวไกลก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า...ต้นกำเนิดนั้นอยู่ที่ใด
แหล่งกำเนิดของแม่น้ำอันลึกลับ
มีทีมสำรวจมากมายประสบความล้มเหลวในการค้นหาว่า แหล่งกำเนิดของแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก อยู่ที่ใด จนในที่สุดการสำรวจในยุคปัจจุบันได้พบว่า ต้นสายของแม่น้ำอันลึกลับอยู่ในประเทศอันทุรกันดาร 2 ประเทศ คือ ประเทศยูกันดาและประเทศเอธิโอเปีย โดยแบ่งเป็นแม่น้ำ 2 สายที่สำคัญ ได้แก่
แม่น้ำไนล์ขาว หรือ The White Nile ซึ่งกำเนิดมาจากทะเลสาบวิกตอเรีย (Lake Victoria) อยู่ในประเทศยูกันดา
แม่น้ำไนล์น้ำเงิน หรือ The Blue Nile กำเนิดมาจากทะเลสาบทานา (Lake Tana) อยู่ในบริเวณที่ราบสูงของประเทศเอธิโอเปีย
สายน้ำทั้ง 2 สายย่อยนี้ จะไหลมาบรรจบรวมกันที่ เมืองคาร์ทูม (Khartoum) ประเทศซูดาน กลายเป็นสายน้ำใหญ่ที่เรียกว่า แม่น้ำไนล์ ซึ่งจะไหลไปหล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินในหลายประเทศ โดยขึ้นทางเหนือจนไปถึงประเทศอียิปต์ ที่เมืองไคโร จากนั้นสายน้ำที่ไหลมาจากดินแดนอันแสนไกลจะแยกกันอีกครั้ง
สายหนึ่งไหลลงไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ณ เมืองดามิตตา (Damietta) ส่วนอีกสายหนึ่งจะไหลไปทางเมืองราชิด (Rashid) โดยในอดีตชื่อว่าเมืองโรเซตตา (Rosetta) ซึ่งเคยขุดพบแท่งหินโรเชตตา ที่เป็นหลักฐานสำคัญของวิวัฒนาการภาษาและตัวอักษรของมนุษย์
การเดินทางของน้ำ การเดินทางของอารยธรรมแม่น้ำไนล์ขาว
เมื่อทราบถึงการเดินทางของสายน้ำจากจุดกำเนิดแล้ว หากเราขยับกล้องขยายให้ชัดกว่านี้จะพบว่าตลอดการเดินทางของสายน้ำที่ชื่อว่า ไนล์ นั้น มีเรื่องราว มีวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับสายน้ำแห่งชีวิตตั้งแต่ต้นสายไปจนถึงปลายสาย
แม่น้ำไนล์ขาวซึ่งกำเนิดจากทะเลสาบวิกตอเรียถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวอังกฤษ จอห์น ฮันนิง สปีก (John Hanning Speke) เขาพบทะเลสาบแห่งนี้และได้ตั้งชื่อตามพระนามของพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ โดยสายน้ำนี้ดึงดูดให้เขาสำรวจไปถึงต้นน้ำของแม่น้ำไนล์ ที่บริเวณข้ามกับหมู่บ้านเอจจินจา (Ejjinja) ซึ่งมีชนพื้นเมืองเผ่าวากันดา (Waganda) ได้อาศัยใช้ชีวิตกับแม่น้ำที่พวกเขาเรียกว่า คีรา (Kiira) ที่มีน้ำตกสวยงามจนจอห์น ฮันนิง สปีก บรรยายไว้ว่า ไม่เคยพบน้ำตกใดน่าทึ่งขนาดนี้มาก่อน และเขายังเชื่อว่าบริเวณนี้คือต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ แม้จะมีคนเห็นแย้ง แต่ปัจจุบันการสำรวจก็พิสูจน์ว่าเป็นจริงตามที่นักสำรวจคนนี้เชื่อ
น้ำตกและแม่น้ำนี้เป็นแหล่งน้ำที่ชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ได้อาศัยหาปลา ล่องเรือแคนูในการสัญจร และเลี้ยงชีพมาตลอด จนกระทั่งในปี 1974 น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นแค่ตำนานเมื่อมีการสร้างเขื่อนขึ้น และเหตุผลที่สายน้ำย่อยแห่งนี้มีชื่อว่า แม่น้ำไนล์ขาว เนื่องจากน้ำในบริเวณนี้มีสีขาวและเขียว
เมื่อทราบถึงการเดินทางของสายน้ำจากจุดกำเนิดแล้ว หากเราขยับกล้องขยายให้ชัดกว่านี้จะพบว่าตลอดการเดินทางของสายน้ำที่ชื่อว่า ไนล์ นั้น มีเรื่องราว มีวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับสายน้ำแห่งชีวิตตั้งแต่ต้นสายไปจนถึงปลายสาย
แม่น้ำไนล์ขาวซึ่งกำเนิดจากทะเลสาบวิกตอเรียถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวอังกฤษ จอห์น ฮันนิง สปีก (John Hanning Speke) เขาพบทะเลสาบแห่งนี้และได้ตั้งชื่อตามพระนามของพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ โดยสายน้ำนี้ดึงดูดให้เขาสำรวจไปถึงต้นน้ำของแม่น้ำไนล์ ที่บริเวณข้ามกับหมู่บ้านเอจจินจา (Ejjinja) ซึ่งมีชนพื้นเมืองเผ่าวากันดา (Waganda) ได้อาศัยใช้ชีวิตกับแม่น้ำที่พวกเขาเรียกว่า คีรา (Kiira) ที่มีน้ำตกสวยงามจนจอห์น ฮันนิง สปีก บรรยายไว้ว่า ไม่เคยพบน้ำตกใดน่าทึ่งขนาดนี้มาก่อน และเขายังเชื่อว่าบริเวณนี้คือต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ แม้จะมีคนเห็นแย้ง แต่ปัจจุบันการสำรวจก็พิสูจน์ว่าเป็นจริงตามที่นักสำรวจคนนี้เชื่อ
น้ำตกและแม่น้ำนี้เป็นแหล่งน้ำที่ชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ได้อาศัยหาปลา ล่องเรือแคนูในการสัญจร และเลี้ยงชีพมาตลอด จนกระทั่งในปี 1974 น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นแค่ตำนานเมื่อมีการสร้างเขื่อนขึ้น และเหตุผลที่สายน้ำย่อยแห่งนี้มีชื่อว่า แม่น้ำไนล์ขาว เนื่องจากน้ำในบริเวณนี้มีสีขาวและเขียว
บรรจบกันเป็นแม่น้ำไนล์
หลังการเดินทางผ่านประเทศเอธิโอเปียและเข้าสู่ประเทศซูดาน ระยะทางกว่า 480 กิโลเมตร ถึงเมืองคาร์ทูม แม่น้ำไนล์น้ำเงินจะไหลเข้าไปรวมกับแม่น้ำไนล์ขาว ที่เดินทางจากทะเลสาบวิกตอเรียจนกลายเป็นเป็นแม่น้ำไนล์ ซึ่งจะไหลหล่อเลี้ยงธรรมชาติ และพื้นแผ่นดินของหลายประเทศจนลงไปสู่ทะเลในระยะทางกว่า 3,000 เมตร
ด้วยระยะทางที่เป็นที่สุด สายน้ำที่เดินทางด้วยกลไกของธรรมชาติได้รับหน้าที่ให้มีบทบาทสำคัญยิ่ง ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เพราะความอุดมสมบูรณ์ของปริมาณน้ำซึ่งเกิดจากปริมาณฝน และการไหลละลายของหิมะบนยอดเข้าสู่ประเทศเอธิโอเปียที่สามารถช่วยในการดำรงชีพ ทำเกษตรกรรม โดยกระแสน้ำที่พัดพาตะกอนดินจากระยะทางไกลก็ได้ก่อเกิดดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ จนทำให้มีการอยู่อาศัย อพยพมาตั้งรกราก ก่อเกิดเป็นอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างอียิปต์
ความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ทำให้ผู้คนที่มีความเกี่ยวข้องกับแม่น้ำไนล์นั้นมีความเชื่อเคารพแม่น้ำแห่งนี้ โดยเฉพาะชาวอียิปต์ ซึ่งเชื่อว่าอียิปต์เป็นของขวัญของแม่น้ำไนล์ อีกทั้งยังผูกพันกับความเชื่อทางศาสนาอย่างตำนานโมเสสศาสดาแห่งศาสนายิว ผู้ปลดปล่อยชาวอิสราเอล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น