ในซอยวัชรพล
เป็น
หมู่บ้านร้างตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ชื่อหมู่บ้านปิยพร
คนเก่าคนแก่ในพื้นที่เล่าว่า ที่ดินส่วนนี้เคยเป็นป่าช้ามาก่อน
เจ้าของโครงการ ไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง
ดังนั้นพอเริ่มงานก่อสร้าง จึงพบกับอุปสรรคนานาประการ
ต่อมามีคนงานเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลายคน
ในเขตหมู่บ้านมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กตกไปตาย 2-3 คน
ประกอบกับบ้านในโครงการ ไม่มีผู้สนใจอย่างที่ประเมินเอาไว้
จึงต้องยุติโครงการ กลายเป็นหมู่บ้านร้างกลางกรุง
พร้อมกันนั้นก็มีเสียงเล่าลือว่า ผู้ที่เข้าไปในเขตหมู่บ้านยามวิกาล
มักจะพบวิญญาณแสดงตัวหลอกหลอน เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ
ไม่บังอาจกล้ำกลายเข้าไปอีก
ในซอยวัชรพลเช่นกัน
เป็น
บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิม เวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่ง
และว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็ก ปรากฏวูบวาบบ่อยๆ
สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่ กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้
พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด และประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตหมดทุกคน
โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปู (ฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ)
สถาน
ที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้า
ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
คือเครื่องปั๊มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง
นับตั้งแต่นั้นคนงานที่ทำงานอยู่ ถูกผีหลอกวิญญาณหลอน
จนต้องทะยอยลาออกไปเรื่อยๆจนหมด กิจการประสบความวินาศ เจ้าของโรงงาน
ยิงตัวตายในห้องทำงานชั้นบนของโรงงาน และกลายเป็นสถานที่รกร้างเรื่อยมา
เล่าลือกันว่าผีดุมาก
ปัจจุบันนี้ยังมีเศษรองเท้ากระจายเกลื่อนและปั๊มลมมรณะก็ยังอยู่
วัดปราสาท จ.นนทบุรี
วัด
ปราสาท จ.นนทบุรี เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง
เคยขุดพบกำแพงเมืองรอบอุโบสถอายุ 300 ปี ด้านหลังอุโบสถ
มีคุ้มเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมว่ากันว่าเจ้าของสถานที่คือ พระนางอุษาวดีเทวี
ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกว่า "แม่" และ" เจ้าแม่ " เวลากลางคืน
หากไปที่บริเวณคุ้มจะมีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก
ผู้ใดไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่
มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆน่าขนหัวลุก
ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ
ใน
ซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ เป็นโรงงานร้าง
เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกา และเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่
80 ไร่ เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชำรุดทรุดโทรม
มีวัชพืชขึ้นปกคลุมรกครึ้มเช่นทุกวันนี้ ว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางแรง
ระหว่างที่ดำเนินงานอยู่ มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายคน
ผู้ลงทุนขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการ หากเดินเข้าไปในอาณาเขตโรงงานร้าง
จะสัมผัสบรรยากาศยะเยือกผิดปกติ
และเล่าลือกันว่าหากไปเคาะแท้งก์น้ำซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ 3 ครั้ง
จะปรากฏเจ้าที่เจ้าทางออกมาให้เห็นทันที
รังสิต คลอง 13
จาก
ถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง
แต่ยังเหลือซากบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง ข้อมูลบางกระแสเล่าว่า
มีผู้หญิงตายในกองไฟ บ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวาน แต่ถูกทิ้งให้รกร้าง
คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันกันว่าตอนกลางคืน
จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวน มาจากซากบ้านบ่อยๆ
พร้อมกันนั้นเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงในบริเวณซากบ้านด้วย
ในซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1
เป็น
บ้านร้างทรงไทยอยู่ริมบึง ห่างไกลจากบ้านอื่นๆ
ในระแวกนั้นบริเวณบ้านรกครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยคุณยายเจ้าของบ้าน
เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และน่าเชื่อว่า วิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปผุดไปเกิด
แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่
ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด ปล่อยบ้านทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
และที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุนัก
คนอยู่ระแวกใกล้เคียงเคยเห็นผีคุณยายมายืนชี้นิ้วอยู่ที่หน้าบ้านเมื่อมี
เด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน เคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้าน
ได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆขู่ตะคอก จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่ทัน
ในซอยสายหยุด อู่รถเมลล์เก่า
ที่
นี่เป็นสุสานรถเมลล์หรือรถโดยสารประจำทางที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การ
ไม่ได้ ซากรถเมลล์แต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ ในสภาพสยดสยองมาแล้ว
และเป็นที่เล่าลือกันว่า อยู่ดีๆไฟในรถกลับเปิดสว่างขึ้นมาเอง
หรือมีคนมายืนโบกรถหน้าอู่
แท๊กซี่จะเข้าไปจอดรับก็หายไปบางครั้งมีคนวิ่งตัดหน้า และหายไปดื้อๆ
วัดมหาบุศย์ พระโขนง
ที่
วัดมหาบุศย์ ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่
สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนง ที่รู้กันแพร่หลายเล่ากันว่า
เมื่อผีแม่นาคอาละวาดหลอกหลอน จนชาวบ้านหาปกติสุขมิได้ เจ้าประคุณสมเด็จโต (
วัดระฆัง ) ได้มานำวิญญาณแม่นาคไป พร้อมกับกระดูกกระโหลกหน้าผาก
แล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม นัยว่าแม่นาคเลื่อนภพเป็นเทพแล้ว
หากยังมีผีวนเวียนที่วัดมหาบุศย์ คงมิใช่วิญญาณแม่นาคอย่างแน่นอน
ในซอยรามคำแหง 32
ลึก
เข้าไปในซอยรามคำแหง 32 ท่านจะพบบ้านทรงสเปนหลังหนึ่งรูปทรงสวยสง่าน่าอยู่
แต่บ้านนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยนานกว่า 20 ปีแล้ว
ปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุดโทรมอย่างน่าใจหาย
ประวัติของบ้านมีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ
วันหนึ่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปทำงานตามปกติ
ที่บ้านมีสาวใช้อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวน
ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้น และฆ่าสาวใช้ตายคาที่
นับตั้งแต่นั้นมักจะได้ยินเสียงผู้หญิง ร้องให้ช่วยดังโหยหวนน่าสยดสยอง
และยังเห็นผู้หญิง (เข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่ถูกฆ่าตาย )
เดินวนเวียนวูบวาบอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านทนอยู่ไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น
เล่ากันว่าหลังจากนั้น มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย
ดังมาจากบ้านร้างบ่อยๆ
และมีคนเห็นผู้หญิงลึกลับยืนอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเมื่อเข้าไปใกล้ก็หายไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น