วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

เสียงฝีเท้าใครเอ่ย

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยใหม่ๆครับ เป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นวิทยาเขตแห่งแรกของประเทศและที่ตั้งเป็นที่เก่าแก่ เล่าลือกันว่าผีดุมาก มีเรื่องเล่าหลอกน้องใหม่อยู่สองสามเรื่องเกี่ยวกับเด็กนุ่งโจงกระเบนจะมา นั่งซ้อนท้ายจักรยานหากขี่ไปคนเดียวบ้าง เรื่องของ สาวสไบเขียวสไบแดงที่มาปรากฏตัวให้เห็นยามดึกบ้าง ฯลฯ

แต่เรื่องที่ผมเจอมานั้น ผมเองก็ไม่ แน่ใจเหมือนกันว่า เกี่ยวข้องกับตำนานบทไหนของที่นั่นบ้างหรือไม่ ตอนเข้าไปใหม่ๆต้องมีการรับน้อง ที่นั่นรับกันเป็นเดือนล่ะครับ ช่วงแรกที่ว้ากผู้ชายจะโดนก่อน สองสามสัปดาห์ วันสุดท้ายของการว้ากชาย ผมป่วยเป็นอีสุกอีใส รุ่นพี่เลยอนุญาตให้พักได้ ไม่ ต้องลงว้าก คือไข้มันขึ้นสูงก่อนที่เม็ดจะออกนะครับ(ใครเคยเป็นคงทราบ) และตามกำหนดนี่ ทางสโมสรนักศึกษาเค้ากำหนดว่าวันนั้นจะต้องเป็นวันสุดท้ายของการรับน้อง เดี่ยวได้แล้ว (และเริ่มรับน้องรวม คณะไหนจะเลิกก่อนก็ได้แต่ห้ามเกินวันนี้) และก็จำเพาะว่าทุกคณะจะ ต้องมาว้ากวันสุดท้ายวันนั้นพอดี(ตอนนั้นมี 5 คณะ)

ผมก็เลยนอนอยู่บนหอเกือบจะคนเดียว เพราะพวกปีหนึ่งไปโดนว้ากแล้วพวกรุ่นพี่ก็ไปว้ากน้องงัยครับ ห้องที่ผมพักนั้นเป็นหอพักรุ่นแรกๆของมหาวิทยาลัย มีห้าชั้นรวมดาดฟ้า และห้องที่ผมพักนั้น เป็นห้องที่อยู่สุดทางเดินชั้นสี่พอดี เป็นห้องที่กว้างกว่าห้องอื่นๆ ชั้นหนึ่งๆจะมีห้องเช่นนี้เพียงสี่ ห้องแต่ก็จะมีคนพักมากกว่าห้องธรรมดาเหมือนกัน ห้องผมพักกันห้าคน แต่มีเตียงเพียงสามหลัง ก็เลยต้องเอาเตียงทั้งหมดมาต่อกันถึงจะนอนกันพอ เข้ามุมห้องพอดี ด้านข้างจะเป็นกำแพง ส่วนอีกด้านหัวนอนจะเป้นหน้าต่าง วันนั้นผมก็ นอนอยู่ในห้อง

ประมาณสามทุ่มได้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเนื่องจากได้ยินเสียงเค้ารับน้องกัน ใกล้ๆ ในห้องตอนนั้นมืดมาก เพราะผมนอนไปตั้งแต่เย็น ตามันเลยยังปรับไม่ได้ด้วย ก็เลยนอนอยู่ อย่างนั้น

ตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างข้างๆหู รู้สึกว่าเป็นเสียงที่ดังอยู่ในห้องนี่ แหละ ผมพยายามฟังอยู่สักครู่ก็ทราบว่าเป็นเสียงเดินลากเท้าดังแสกๆๆๆๆ มันดังมาจากทาง หน้าประตู ผมก็เริ่มขี้ขึ้นหัวแล้ว (ขอโทษนะครับที่ใช้คำนี้ แต่ตอนนั้นมันเป็นอย่างนี้จริงๆ) เพราะ โดนรุ่นพี่ขู่ไว้มาก อีกอย่างผมเป็นคนกลัวผีมากๆด้วย

เสียงฝีเท้านั้นเหมือนเดินตรงเข้ามาที่เตียง ผมเลยหลับตา บทสวดอะไรก็นึกไม่ออก นึกถึงพ่อ แม่อย่างเดียว สักพักเสียงเดินนั้นมันก็ผ่านมาข้างๆเตียง แล้วผ่านไปทางหัวนอน วกกลับมาอีก ด้านหนึ่งของเตียงแล้ววนมาที่ปลายเตียงอีกครั้ง เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณสี่ห้ารอบ

รุ่นพี่ของผม คนหนึ่งก็เปิดประตูห้อง เปิดไฟ เข้ามาเรียกผมลงไปกินข้าวกับเพื่อนก่อนจะเปิดใจ(กิจกรรมรับน้อง) ผมลุกพรวดเข้าไปหาแกเลยทันที แกยังบอกเลยว่า สงสัยผมหายป่วยแล้ว แต่พอพี่เค้า เห็นหน้าผมแกก็เลยรีบพาลงไปข้างล่าง ผมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ๆเพื่อนๆฟัง เค้าว่าผมคงเพ้อเพราะ ไข้ไปเอง แต่พอเรากลับถึงห้องพักสิครับ เพื่อนๆถึงกับอึ้งไปเลย เรียกใครต่อใครมาดูกันใหญ่

เพราะที่ห้องผมนั้นเต็มไปด้วยรอยเท้าเปื้อนโคลนเต็มรอบเตียงไปหมด เป็นรอยเท้าที่ข้างขวาลง น้ำหนักเต็ม ส่วนข้างซ้ายนั้นลากตามมาเหมือนคนขาเสีย รอยนี้ยังเปื้อนเข้าไปถึงใต้เตียงด้วย เพื่อนๆก็เลยมานั่งคุยกันเรื่องนี้ ว่ามันอาจเป็นขโมยก็ได้ ผมก็แย้งว่าแล้วมันเดินไปใต้เตียงทำไม ถามเฉยๆครับ ทุกคนก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ มันเข้าไปเดินไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเตียงต่ำมาก นอกจากว่า คนๆนั้นจะเลื่อนเตียงออกจากข้างผนังเสียก่อน

หรือไม่ก็คือเค้าต้องสามารถเดินผ่านเตียงไปได้ เลย ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็เลยย้ายไปอยู่ห้องอื่นเลยครับ ขอโทษนะครับ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ผมอยากให้เห็นภาพครับ

ที่มา ที่มา shockfmclub
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น