วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เทศน์มหาชาติ

พระอรรถกถาจารย์พรรณนาถึงเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อไว้ว่า ผู้ที่ได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ๑๐๐๐ พระคาถาจบภายในวันเดียวจะได้อานิสงส์มาก เช่น ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ หรือนิพพานสมบัติ ที่สุดแม้แต่จะปรารถนาให้พบพระศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะได้พบสมความปรารถนา และในแต่ละกัณฑ์ยังมีอานิสงส์แตกต่างกันไปตามลักษณะของเนื้อเรื่องอีกด้วย

ผู้ใดบูชากัณฑ์ทศพร จะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีเป็นที่ชอบเนื้อเจริญใจ ถ้าเป็นบุรุษจะได้ภรรยาเป็นที่ต้องประสงค์ ทั้งจะได้บุตรหญิงชาย เป็นคนว่านอนสอนง่าย มีรูปกายงดงาม มีความประพฤติดี กิริยาวาจาเรียบร้อยทุกประการ
ผู้ใดบูชากัณฑ์หิมพานต์ ย่อมได้ในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ครั้นตายไปแล้วจะได้ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยสมบัติอันโอฬาร มีบริวารแวดล้อมบำรุงบำเรออยู่เป็นนิจ ครั้นจุติจากสวรรค์แล้วจะลงมาเกิดในตระกูลขัตติยะมหาศาล หรือตระกูลพราหมณ์มหาศาลอันบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร บริวารมากมายนานาประการ เช่น โค กระบือ ช้าง ม้า รถ ยานพาหนะ นับประมาณมิได้ ประกอบด้วยความสุขกายสบายใจทุก ๆ อิริยาบถ
ผู้ใดบูชากัณฑ์ทานกัณฑ์ จะบริบูรณ์ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ทาส ทาสี และสัตว์สองเท้าสี่เท้า ครั้นตายแล้วจะได้ไปเกิดในฉกามาพจรสวรรค์ มีนางเทพอัปสรแวดล้อมมากมาย เสวยสุขอยู่ในปราสาทแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ
ผู้ใดบูชากัณฑ์วนปเวสน์ จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า จะได้เป็นบรมกษัตริย์ในชมพูทวีปเป็นผู้ทรงปรีชา เฉลียวฉลาด สามารถปราบอริราชศัตรูให้ย่อยยับไป
ผู้ใดบูชากัณฑ์ชูชก จะได้บังเกิดในตระกูลกษัตริย์ ประกอบด้วยสมบัติอันงดงามกว่าชนทั้งหลายจะเจรจาปราศรัยก็ไพเราะเสนาะโสต แม้จะได้สามีภรรยาและบุตรธิดา ก็ล้วนแต่มีรูปทรงงดงามสอนง่าย
ผู้ใดบูชากัณฑ์จุลพน แม้จะบังเกิดในภพใด ๆ จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์บริวาร จะมีอุทยานอันดารดาษด้วยดอกไม้หอมตลบไป แล้วจะมีสระโบกขรณีอันเต็มไปด้วยปทุมชาติ ครั้นตายไปแล้วก็ได้เสวยทิพย์สมบัติในโลกหน้าสืบไป
ผู้ใดบูชากัณฑ์มหาพน จะได้เสวยสมบัติในดาวดึงส์เทวโลก และจะได้ลงมาเกิดเป็นกษัตริย์มหาศาล มีทรัพย์ศฤงคารบริวารมาก มีอุทยานและสระโบกขรณีเป็นที่ประพาส เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยศักดานุภาพเฟื่องฟุ้งไปทั่วชมพูทวีป อีกจักได้เสวยอาหารทิพย์เป็นนิจนิรันดร
ผู้ใดบูชากัณฑ์กุมาร ย่อมประสบความสำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนาครั้นตายไปได้เกิดในฉกามาพจรสวรรค์ ในสมัย ที่พระศรีอาริยเมตไตรยมาอุบัติก็จะได้พบศาสนาของพระองค์ จะได้ถือปฏิสนธิ ในตระกูลกษัตริย์ ตลอดจนได้สดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาของพระองค์แล้วบรรลุพระอรหัตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4 ด้วยบุญราศีที่ได้อบรมไว้
ผู้ใดบูชากัณฑ์มัทรี เกิดในโลกหน้าจะเป็นผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาว ทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงามกว่าคนทั้งหลาย จะไปในที่ใด ๆ ก็จะมีแต่ความสุขทุกแห่งหน
ผู้ใดบูชากัณฑ์สักกบรรพ จะได้เป็นผู้เจริญด้วยลาภ ยศ ตลอดจนจตุรพิธพรทั้ง 4 ประการ ได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดกาล
ผู้ใดบูชากัณฑ์มหาราช จะได้มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระราชา เมื่อจากโลกมนุษย์ไปก็จะได้ไปเสวยทิพย์สมบัติในฉกามาพจรสวรรค์ มีนางเทพอัปสรเป็นบริวาร ครั้นบารมีแก่กล้าก็จะได้นิพพานสมบัติอันตัดเสียซึ่งชาติชรา พยาธิ มรณะ พ้นจากโอฆะทั้งสาม มีการโมฆะ เป็นต้น
ผู้ใดบูชากัณฑ์ฉกษัตริย์ จะได้เป็นผู้เจริญด้วยพร 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละทุก ๆ ชาติแล
ผู้ใดบูชากัณฑ์นครกัณฑ์ จะได้เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติ ข้าทาสชายหญิง ภรรยาสามี หรือบิดามารดา เป็นต้น อยู่พร้อมหน้ากันโดยความผาสุก ปราศจากโรคาพาธทั้งปวง จะทำการใด ๆ ก็พร้อมเพรียงกัน ยังการงานนั้น ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ความเชื่อแบบพุทธ ได้แก่ ความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรมทางศาสนา เช่น การเวียนว่ายตายเกิด การทำดีได้ดี การทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งการทำความดีและความชั่วนั้นจะเห็นผลได้ชัดเจนในตอนสรุปเรื่องหรือประชุมชาดกกลับชาติว่า คนทำความดีเมื่อไปเกิดชาติใหม่ก็เกิดมาดีทุกคน ด้วยเหตุนี้พระอรรถกถาจารย์จึงพรรณนาถึงเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อไว้ว่า ผู้ที่ได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง 13 กัณฑ์ 1000 พระคาถา จบภายในวันเดียวจะได้อานิสงส์มาก เช่น ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ หรือนิพพานสมบัติ ที่สุดแม้แต่จะปรารถนาให้พบพระศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะได้พบสมความปรารถนา และในแต่ละกัณฑ์ยังมีอานิสงส์แตกต่างกันไปตามลักษณะของเนื้อเรื่องอีกด้วย

หากจะวิเคราะห์ความเชื่อในเรื่องมหาชาติทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ๑๐๐๐ พระคาถาพอจะสรุปได้ดังนี้คือ มีทั้งความเชื่อแบบพุทธ ความเชื่อแบบพราหมณ์ และความเชื่อในเรื่องผี ความเชื่อในเรื่องผี ปรากฏอยู่ในเรื่องมหาเวสสันดรชาดกหลายกัณฑ์ ซึ่งตอนนี้จะขอทำความเข้าใจเรื่องผีเสียก่อน ผีมีอยู่ ๓ ชนิด ได้แก่

ผีที่ดี คือผีที่คอยปกปักรักษาเรา เรียกกันโดยทั่วไปว่า เทวดา เช่นรุกขเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา เสื้อเมืองทรงเมือง ดังนี้เป็นต้น
ผีร้าย เป็นผีที่คอยหลอกหลอน ชอบกินเครื่องเซ่น เครื่องสังเวย ชอบรับสินบน หากไม่ได้ตามที่ต้องการก็จะคอยทำอันตราย เข้าสิงสู่ผู้คนให้เดือดร้อน
ผีที่เป็นซากศพ ได้แก่คนที่ตายแล้วเราก็เรียกว่าผีไม่ว่าจะตายโดยวิธีใด ตายด้วยโรคาพยาธิ หรือตายด้วยคลื่นยักษ์ “สึนามิ” เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ ก็ตาม
ในเรื่องมหาเวสสันดรชาดกนี้เชื่อว่าคนทำดีผีย่อมคอยปกปักรักษา จึงกล่าวถึงผีที่ดี ผีที่คอยปกปักรักษา คอยช่วยเหลือพระเวสสันดรบ้าง คอยดลใจชาวเมืองบ้าง หรือคอยปกปักรักษากัณหาชาลีในกัณฑ์มหาราชบ้าง ดังนี้เป็นต้น

ส่วนความเชื่อแบบพราหมณ์ในเรื่องมหาเวสสันดรชาดกนี้ ปรากฏในรูปแบบของพิธีกรรมและวิธีการหลายตอน เช่นการทำนายฝัน และการทำบายศรีสู่ขวัญในกัณฑ์มหาราช ความเชื่อแบบชาวพุทธ ได้แก่ความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรมทางศาสนา เช่น การเวียนว่ายตายเกิด การทำดีได้ดี การทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งการทำความดีและความชั่วนั้นจะเห็นผลได้ชัดเจนในตอนสรุปเรื่องหรือประชุมชาดกกลับชาติว่า คนทำความดีเมื่อไปเกิดชาติใหม่ก็เกิดมาดีทุกคน
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น