วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ยาเสียสาว

ว็บไซต์แห่งหนึ่งอ้างว่าขายผลิตภัณฑ์ด้านเซ็กซ์ทอยส์ จัดอันดับ สินค้าขายดีจากการที่มีลูกค้า สั่งซื้อสูงสุด ซึ่งไม่น่าแปลกใจ ที่ผลิตภัณฑ์เพิ่มขนาดท่านชายติดเกือบทุกอันดับ ยกเว้น ?ยาเสียสาว? ถึงแม้ราคาบนเว็บจะแพงลิบ แต่เหล่าบรรดามิจฉาชีพยังคงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

?ยาเสียสาว-ยาเสียตัว? ไม่ใช่ชื่อใหม่ บรรดานักเที่ยวต่างรู้ดีและไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ขณะที่ปัจจุบันยาเหล่านี้ไม่ได้ใช้มอมเฉพาะ ?สาวเล็ก-สาวใหญ่? เพียงอย่างเดียว แต่ ?หนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่? ก็ยังคงตกเป็นเหยื่อหลายครั้งหลายครา ยิ่งใกล้ถึง ช่วง หยุดยาวนักขัตฤกษ์ เทศกาลสงกรานต์ ผู้คนต่างเข้าไป ?กินดื่ม? ตามสถานบันเทิงกันหนาแน่นมากขึ้น ยิ่งเป็นหอีกจุดเสี่ยงที่ควรจับตามอง

ไม่ต่างจากเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแห่งหนึ่ง (บ้านชาย) เคยเป็นทั้ง ?ผู้กระทำและถูก กระทำ? เราได้คุยกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรา

เอ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ละแวกบ้านเป็นชุมชนแออัดซึ่งเด็กที่มีพฤติกรรมเกเรจะรู้จักกันหมด จนตั้งกลุ่มเป็นแก๊งใหญ่คอยช่วยเหลือกันและกัน ทำให้รู้จักแหล่งค้ายามอมสาวเป็นอย่างดี โดยซื้อยา ?โดมิคุม? หรือรู้จักในวงการว่า ?ไอ้คุ่ม? ราคาเม็ดละ 100 บาท เหยื่อส่วนใหญ่เพื่อน ๆ ที่อยู่ในโรงเรียนแนะนำให้รู้จัก ซึ่งพอเหยื่อตายใจก็จะชักชวนไปนั่งเล่นห้องเพื่อนที่ค่อนข้างมีระดับ เช่น คอนโดฯ ที่มีเครื่องเสียงและเครื่องเล่นซีดี

ส่วนมากหลอกเหยื่อ มาในเวลากลางวัน โดยจะพากันโดดเรียนมานั่งเล่นในห้องดังกล่าว พอหญิงสาวตายใจ เอจะให้เพื่อนทำทีไปซื้อน้ำอัดลมมาเลี้ยง และลอบใส่ยาที่บดเตรียมไว้แล้วในน้ำให้เหยื่อดื่ม ไม่กี่อึดใจสาวน้อยที่คึกคักก็หลับใหลไม่รู้ตัว คนร้ายที่เป็นตัวตั้งตัวตีทำการข่มขืนกระทำชำเราก่อนเป็นคนแรกหลังจากนั้นเพื่อนคนอื่นค่อย ๆ เรียงคิว

เอ ยอมรับว่า มีแฟนอยู่แล้วและมีเพศสัมพันธ์กันบ่อย แต่เหตุที่ทำไปเนื่องจากเพื่อน ๆ ในกลุ่มยุยงและอารมณ์ชั่ววูบ

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นฝ่ายหญิงตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ขณะที่คนร้ายต่างเตรียมอาวุธไว้ข่มขู่ไม่ให้เธอนำเหตุการณ์นี้ไปบอกใคร เอ บอกว่า ทำมาแล้วหลายครั้งเด็กผู้หญิงหลายคนก็ไม่ยอมบอกใครเพราะอับอาย และยังมีเด็กสาวบางส่วนที่นึกว่าการ กระทำของพวกเขาในครั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาแต่ใช่ว่าฝ่ายหญิงโดน กระทำเพียงอย่างเดียว ฝ่าย ชายเองที่ขนาดได้สมญานามว่า ?เสือผู้หญิง? ก็เคยโดนลูบคมมาแล้ว

หนุ่ม (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ก่อนเข้ามาอยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กฯ เคยค้ายาบ้ามาก่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งไปเที่ยวผับกับเพื่อนก่อนนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า ได้รู้จักกับหญิงสาวนางหนึ่งรูปร่างอวบอิ่มเชื้อเชิญให้เขาร่ำสุราอยู่ค่อนคืน หลังจากนั้นจึงพากันไปที่โรงแรม

ฝ่ายหญิงทำทีขอตัวไปอาบน้ำชำระคราบไคล ขณะที่หนุ่มนอนรออยู่บนเตียง ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งเธอก็ออกมาพร้อม กับผ้าขนหนูคลุมกายผืนเดียว หนุ่มสังเกตเห็นว่าพอออกมาหญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหยดน้ำที่เกาะบนร่างเปลือยเปล่าเกือบทุกส่วนยกเว้นปทุมถันที่เธอระมัดระวังใช้ผ้าเพียงซับ ๆ ให้พอเป็นพิธี

แล้วหนุ่มก็ได้กระทำล่วงล้ำบนเนินอกอันอวบอิ่มของ หญิงสาว หนุ่มเล่าว่า รู้สึกฝาด ๆ ลิ้น แต่ไม่ทันได้คิดอะไรมากกว่านั้นเขาก็รู้สึกมึนหัวสลบลง ตื่นขึ้นมาอีกทีพร้อมกับร่างเปลือยเปล่า ไร้เงาสาวเจ้า ?สวรรค์ล้มครืน?

หนุ่มตรวจดูทรัพย์สินพบว่า เงินในกระเป๋าหายเกลี้ยง ขณะที่ยาบ้าลอตใหญ่ก็หายไปด้วย เขาคิดอะไรไม่ออกจึงใช้โทรศัพท์โรงแรมโทรฯ ไปบอกเพื่อนให้มารับ

นพ.พงศพันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ยามอมสาวที่คนร้ายนำมาใช้ เป็นยานอนหลับที่มีการควบคุมอย่างใกล้ชิด เมื่อซื้อต้องมี ใบสั่งแพทย์หรือบางชนิดใช้ ในโรงพยาบาลอย่างเดียว

แต่การแพร่ระบาดของยาส่วนใหญ่ เกิดจากการลักลอบนำเข้าประเทศ เนื่องจากบางประเทศตัวยาเหล่านี้ไม่ได้รับการควบคุมอย่างจริงจัง ยาส่วนใหญ่ที่คนร้ายใช้คือ ?โดมิคุม? ออกฤทธิ์ต่อจุด ศูนย์กลางการหายใจบริเวณสมองทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและง่วงนอน แต่หากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยาชนิดอื่นที่ออกฤทธิ์เหมือนกันอาจทำให้ผู้ใช้เสียชีวิตได้

?โดมิคุม? หากใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ติดได้ เนื่องจาก เมื่อได้รับเข้าไปแล้ว จะรู้สึกมีความต้องการอีก หากไม่ได้รับอาจมีความรู้สึกนอนไม่หลับ แต่บางกรณีใช้ติดต่อกันนานทำให้ดื้อยานอนไม่หลับ

ยาอีกตัวคือ อัลปราโซแลม มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อและทำให้เกิดอาการง่วงนอน ไม่มีแรง สูญเสียความทรงจำหลังจากใช้ยา โดยผู้ใช้รู้สึกง่วงนอนเมื่อทานเข้าไป 15 นาที ซึ่งมีฤทธิ์อยู่ 8-9 ชั่วโมง ยานี้ส่วนใหญ่ใช้กับผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการคลุ้มคลั่งหมอจะให้ยาตัวนี้เพื่อผ่อนคลาย

ยาเหล่านี้เมื่อผสมกับน้ำไม่มีสีและรสทำให้ยากแก่การสังเกต ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพนิยมนำยาผสมใส่กับน้ำเพื่อให้เหยื่อดื่ม ทางหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุดคือ ไม่ควรเข้าไปในที่อโคจรเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงในการโดนมอมยามากที่สุด ขณะเดียวกันก็ไม่ควรดื่มน้ำจากคนแปลกหน้าหรือวางแก้วไว้ไกลตัว อาจทำให้คนร้ายแอบใส่ยาลงไปได้

ส่วนผู้ชายเองก็ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเช่นกัน โดยใช้หญิงสาวเป็นตัวหลอกล่อ พอเผลอก็แอบใส่ยาในเครื่องดื่ม หรือแต้มไว้ตามจุดสำคัญของ ร่างกายเพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายชายรับประทานเข้าไป

สำหรับโทษของผู้ที่นำยาเหล่านี้ขายให้ผู้อื่นโดยไม่มีใบสั่งยามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

?บ้านใดก็ตามที่มีผู้ใช้ยาเหล่านี้อยู่ ควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก เพราะมีคนไข้บางรายมีหลานเห็นแล้วแอบเอาไปเล่น ผสมกับน้ำหวานให้เพื่อนดื่ม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากเพราะเป็นสารที่มีความร้ายแรง หากเด็กไม่มีภูมิต้านทานพออาจเสียชีวิต?

เมื่อรู้เช่นนี้การระแวดระวังที่ดีที่สุดคือ การไม่ประมาท...!
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น