ญิน เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่มีระบุในอัลกุรอาน ซึ่งมารร้ายอิบลีส มาจากพวกนี้
สิ่งมีชีวิต 4 ประเภท
ตามหลักความเชื่อที่มีระบุในอัลกุรอาน อัลลอหฺทรงสร้างสรรพสิ่งสุดจะครณาได้ ทว่าที่เห็นว่ามีชีวิตนั้นมีอยู่สี่อย่างคือ
๑. มีปัญญา มีตัณหา มีตัวตน(เป็นเลือดเนื้อและกระดูก) นั่นคือมนุษย์
๒. มีปัญญา มีตัณหา ไม่มีตัวตนที่เห็นด้วยตาเปล่า นั่นคือญิน
๓. มีปัญญา ไม่มีตัณหา ไม่มีตัวตน นั่นคือมลาอิกะหฺ
๔. ไม่มีปัญญา มีตัณหา มีตัวตน นั่นคือสัตว์
มนุษย์นับถือศาสนาตามที่ตนคิดว่าถูกต้อง ขวนขวายหาทางรอดในชีวิตประจำวันเรื่อยไป จนกว่าจะสิ้นชีพ ที่ประเสริฐที่สุดคือมนุษย์ยามใช้ปัญญาประกอบความดี แต่เมื่อใดยึดตัณหาเป็นใหญ่ ประกอบความชั่ว ฝ่าฝืนกฏระเบียบ ก็ไม่จะผิดกับเดรฉาน เนื่องจากมนุษย์มีเลือดเนื้อที่มาจากดิน เช่นเดียวกับมนุษย์คนแรกคือ อาดัม จึงผูกพันอยู่กับดินไม่จบสิ้น เสพสุขกับอาหารที่งอกเงยมาจากดิน รักและครอบครองผืนแผ่นดิน สะสมธาติและสารที่มาจากดิน เช่นทองคำและเพชรพลอย เมื่อสิ้นชีพร่างกายของมนุษย์ก็กลายเป็นดินอีกครั้ง และมนุษย์ก็จะผูกพันกับ กาละ และ เทศะ ไม่อาจดิ้นรนให้พ้นไปได้
ญินที่ถูกสร้างมาจากเพลิงนั้นก็เหมือนกับมนุษย์ คือจะอาศัยอยู่ในโลกนี้ ทว่ามีตัวตนที่เราไม่อาจจะเห็นด้วยตาธรรมดา มีศาสนาและความเชื่อถือแตกต่างกันไป ในอัลกุรอานได้ระบุว่า ญินพวกหนึ่งได้เดินทางมาหาท่านนบีมุฮัมมัดและเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม
ทั้งมนุษย์และญินต่างก็หาคำตอบว่า หลังจากดับไปจากโลกนี้แล้ว พวกตนจะไปไหน?
ส่วนมะลาอิกะห์นั้นเมื่อไม่มีตัณหาก็จะขาดความประสงค์ จึงมีหน้าที่ดูแลระบบฟากฟ้าและโลกตามพระบัญชาของอัลลอหฺโดยไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อถูกสร้างมาจากรัศมี การเคลื่อนไหวก็คงเป็นเช่นแสง เข้าออกและเปลี่ยนที่โดยไม่มีพันธะ หน้าที่ของพวกเขาก็คือการเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ และไร้กังวลต่อการสอบสวนในวันสุดท้่าย
ที่ต่ำสุดก็คือสัตว์เดรฉาน ทว่าเป็นพวกที่โชคดีกว่ามนุษย์และญินส่วนมาก เพราะไม่ถูกลงโทษวันปรโลก
ผีในทัศนะของอิสลาม
คำว่า ผี ก็ตรงกับคำว่า ญิน ไม่ได้หมายถึงวิญญาณของผู้ตายอย่างที่คนส่วนใหญ่เชื่อกัน เพราะตามคำสั่งสอนของอิสลาม คนที่ตายไปแล้ว ก็จะถูกนำไปพักรออยู่ในโลกแห่งบัรซัค ไม่สามารถออกมาเพ่นพ่านอย่างที่คนเขาอุปาทานกัน ส่วนการที่บอกกันว่า วิญญาณนายคนนั้น วิญญาณนางคนนี้ มาเข้าทรงเข้าสิง หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งนั้นพอจะสรุปได้สามอย่างคือ
หนึ่ง การที่หมอทรงแกล้งหลอกเพื่อหาเงินใช้
สอง การสะกดจิตตนเองแล้วเสนอข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของสมอง (เป็นการอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์)
หรือ สาม การที่ญินเข้าสิงจริงๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่บ่อยเท่าข้อแรก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น