วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

อู่สยองขวัญ


นายดอน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากอู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์

พูดถึงเรื่องผีนี่ผมเองอยู่ในพวก 50-50 ครับ คือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง!

ถ้า เป็นตอนกลางวันแสกๆ ผู้คนคึ่กๆ รถราขวักไขว่ มีสาวๆ สวยๆ ประเภทขาวสวยหมวยอึ๋ม นุ่งกระโปรงสั้นเอวต่ำ เสื้อเกาะอก หรือดูเหมือนใส่ยกทรงตัวเดียว เดินส่ายอกบิดสะโพกข้างถนนหรือย่านศูนย์การค้า

ฮะแอ้ม! แบบนี้รับรองว่าลืมเรื่องผีเด็ดขาดครับผ้ม!

แต่ ถ้าอยู่คนเดียวเปลี่ยวใจ แถมอยู่ในห้องเช่าโดดเดี่ยวเดียวดายตอนดึกๆ คืนไหนฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่า ก็เล่นเอาสะดุ้งผวาเหมือนกัน...เสียงลมครวญครางกับยอ ดไม้ดังซู่ซ่าน่าวังเวง ใจ ไอ้หมาเจ้ากรรมก็หอนได้หอนดี ไม่รู้ว่าจะหอนหาพระแสงอะไรของมัน?

กลัว ผีน่ะซีครับ! อยากเก่งแต�ปากน่ะไม่ยากหรอก แต่ใครจะรู้ดีไปกว่าตัวของเราเอง ว่ายามคับขันขึ้นมาน่ะ อกใจมันเต้นตูมๆ มือไม้เย็นเฉียบ เหงือกาฬแตกซิก หน้าซีดตัวสั่นเพราะเลือดลดวูบวาบทันใด

บ้านผมอยู่ย่านบางโพ เตาปูน ประมาณนั้นแหละ ขืนบอกรายละเอียดมากกว่านี้ เดี๋ยวเจ้าของอู่ซ่อมรถเขาจะมาแหกอกเอา...ใจเย็นๆ น่าเฮีย!

แหง ละครับว่าอู่มหากาฬนั่นน่ะอยู่ในซอยบ้านผมเอง ต้องเดินผ่านเข้าออกเป็นประจำ ตอนกลางวันไม่เคยนึกถึงหรอกครับ รถราและผู้คนหนาตา ไม่มีอะไรน่าหวาดระแวง แต่ตอนกลางคืนนี่ซี...ยิ่งตกดึกบรรยากาศมันเปล่าเปลี ่ยวน่าวังเวงใจพิลึก

บ้าน ช่องปิดไฟกันหมด จะอาศัยแสงไฟฟ้าก็เอาแน่ไม่ได้ เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวดับ นานๆ จะเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาซักที...ต่างหวาดระแวงกันและ กันแหละครับ บอกตรงๆ

ผ่าน อู่ซ่อมรถที่เปิดไฟสว่างพออาศัย เห็นรถตะละคันบิดเบี้ยว เละเทะแทบจะเป็นซากก็มี นึกถึงภาพคนขับรถซ้อนจะเป็นยังไงมั่ง...ขนหัวลุกครับ !

บางคันวง ล้อหน้าคดพับ บางคันแฮนด์บิดเบี้ยว บางคันยางฉีกขาด ประเภทโคมไฟยับย่นเหมือนไม่ได้ทำด้วยเหล็กก็มี ขาตั้งรถเอียงกะเท่เร่ก็มี...แล้วพวกมนุษย์หนังบางๆ หรือเนื้อหุ้มจะมีสภาพแบบไหน?

เคยเห็นเลือดแห้งๆ เกรอะกรังตามตัวถัง...คิดแล้วขนหัวลุก!

ขนาด เมาดีมาเดินกลับดึกๆ เห็นแล้วแทบสร่างเมา ปากคอแห้งผากไปหมด ว่าจะไม่มองก็อดไม่ได้...อุปาทานทำให้เห็นรูปเงาวูบว าบเหมือนคนนั่งฟุบหน้า ก็มี นั่งตัวตรงแข็งทื่อก็มี พอจ้องมองอีกทีก็หายไปแล้ว

บางคืนจ้ำ อ้าวเลยผม บางคืนแข้งขาหนักอึ้งจนแทบยกไม่ขึ้น เหงื่อกาฬหยดเผาะๆ พวกหมูหมาเจ้ากรรมก็กระหน่ำซ้ำเติมด้วยการหอนรับโหยห วนซะอีก เอากะมันซิ!

ผมกับเพื่อนๆ ชอบก๊งกันตอนเลิกงานบ่อยหน กระทั่งคืนหนึ่งเจอดีเข้าจนได้

คืน เกิดเหตุเงินเดือนออกพอดี ร้านไหนๆ ก็มีคอสุราฮาเฮกันแน่นตรึมทั้งนั้น...พูดกันเล่นๆ ว่าจำหน้าเพื่อนไม่ได้เมื่อไหร่ค่อยกลับบ้านละกัน

แหม! อีตอนที่เดินเข้าซอยเปลี่ยวตอนดึกสงัดนี่ซีครับ คิดว่าเมาได้ที่แล้วเชียว ไหงพิษเหล้ามันเบาบางลงเร็วจัง...จากการเดินเซนิดๆ ตอนเข้าซอยกลับเดินตัวตรงแหนว...นึกถึงเรื่องน่าขนหั วลุกที่อู่ซ่อมรถขึ้นมา ทันใด!

เมื่อ 2-3 วันก่อน พวกช่างที่นั่นเขาลือกันเรื่องมอเตอร์ไซค์ที่พ่อเอาม าซ่อม ลูกชายขับไปเสยปิกอัพคอหักคาที่เมื่ออาทิตย์ก่อน...ก ำลังซ่อมอยู่ดีๆ เครื่องยนต์พลันดังกระหึ่ม เล่นเอากระโดดโหยงไปตามๆ กัน

หาว่า เครื่องหลวมบ้าง บังเอิญบ้าง แต่คนกลัวผีก็ไม่วายพูดกันว่า ผีดุ...วันรุ่งขั้นก็เกิดเรื่องประหลาด อยู่ดีๆ รถคันนั้นก็ล้มโครมทั้งที่ตั้งอยู่บนเหล็กฉาก เป็นแท่นสำหรับค้ำรถซ่อม เหตุเกิดตอนเย็นๆ ด้วย ช่างบางคนเดินตัวสั่นไปขอลากลับเลย

ผมมาถึงหน้าอู่ที่เงียบเชียบ สว่างโพลง เห็นรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หลายคันรู้สึกอากาศเย็นวูบ เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก

ทัน ใดนั้น แสงไฟจากโคมหน้ารถคันหนึ่งก็สว่างจ้าขึ้นดื้อๆ ผมชะงักกึกแม้จะไม่รู้ว่ารถผีสิงที่เขาเล่าเป็นคันไห น แต่ใจมันคิดแต่ว่า...คันนี้แน่แล้ว!

อาราธนาหลวงพ่อโกยวัดหน้า ตั้งซีครับ รถจอดอยู่ดีๆ ไม่มีคนขับเปิดไฟได้เองกลางดึก ขืนชักช้าเกิดเห็นใครนั่งถ่างขาคร่อมอานจ้องมองมา มีหวังช็อกตายคาที่อยู่ตรงนั้นเอง จริงมั้ยครับ?
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น